ปรับการเดินรถถนนพัทยาใต้ เป็นวันเวย์ รองรับการปรับปรุงระบบนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน

ที่ บริเวณแยกสื่อสาร ถนนพัทยาใต้ นายเกียรติศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รองปลัดเมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ต.อรุษ สภานนท์ สารวัตรจราจร สภ.เมืองพัทยา นายธนู สุรชัยสิขวิทย์ หัวหน้าแผนกจัดการงานโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 2 ภาคกลาง จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของ เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา หลังปรับเปลี่ยนเส้นทางการจราจร ถนนพัทยาใต้ บริเวณแยกสื่อสาร ถึงปากทางพัทยาใต้เป็นเดินรถแบบทางเดียวหรือวันเวย์ รองรับการก่อสร้างและปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน ตามโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่

นายธนู สุรชัยสิขวิทย์ หัวหน้าแผนกจัดการงานโครงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งฟ้า กฟภ.กล่าวว่า สำหรับแผนการก่อสร้างและปรับปรุงระบบไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน ตามโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าในเมืองใหญ่ ระยะที่ 1 บริเวณถนนพัทยาใต้ ตั้งแต่ปากทางแยกพัทยาใต้ ถึงแยกสื่อสาร จะมีการเปิดหน้าดินในการก่อสร้างเป็นช่วงๆ ช่วงละ 400 เมตร หากดำเนินการแล้วเสร็จก็จะคืนผิวถนนทันที ซึ่งตลอดเส้นทางจะมีการปิดการจราจร 2 ช่องทาง ในการก่อสร้างวางท่อร้อยสายและบ่อพัก สำหรับการจัดเรียงสายฟ้าลงใต้ดิน โดยจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 6 เดือน แบ่งการจราจรอออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกตั้งแต่บริเวณแยกสื่อสารถึงซอยบงกช ระยะทางประมาณ 800 เมตร จะมีการปรับการจราจรให้รถวิ่งลงชายหาดอย่างเดียว และตั้งแต่บริเวณซอยก่อไผ่ถึงปากทางพัทยาใต้ รถสามารถวิ่งออกถนนสุขุมวิทได้ โดยในช่วงแรกจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 เดือน และช่วงที่ 2 หากการดำเนินการก่อสร้างถึงซอยบกกชก็จะปิดการจราจรแบบวันเวย์ 100% เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนในสัญจร

ด้าน พ.ต.ต.อรุษ สภานนท์ สารวัตรจราจร สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาบนถนนพัทยาใต้ พ.ต.อ. เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.พัทยา ให้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนที่เร็ว เพื่ออำนวยความสะดวกพื้นที่โดยรอบการก่อสร้าง และจะไม่ให้มีการจอดรถบริเวณเส้นขาวเหลืองและขาวแดงอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การจราจรเกิดความคล่องตัวไม่เกิดความแออัดบริเวณที่มีการก่อสร้าง โดยได้มีการนำป้ายห้ามจอดตลอดแนวมาวางบริเวณถนนพัทยาสาย 3

ทั้งนี้ในช่วงกลางวันได้เพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่จราจรจากเดิม 25 นาย เป็น 30 นาย ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งเพื่อตรวจสอบความพร้อมของการจัดวางอุปกรณ์ ต่างๆ ทั้งการวางแท่งแบริเออร์ การตั้งป้ายบอกเส้นทางให้กับประชาชน และจัดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างในช่วงเวลากลางคืน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่สัญจรไปมา จึงอยากจะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านและประชาชน จุดใดที่เคยให้รถจอดได้ หลังจากนี้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาป้ายห้ามจอดไปตั้งไว้ ก็อยากจะให้ประชาชนให้ความร่วมมือ อีกทั้งอยากจะให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่การก่อสร้างได้มีการวางแผนการเดินทาง เพื่อลดเวลาในการเดินทาง