ตร.ทท.รวบไกด์เถื่อนชาวจีน ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ โดยไม่มีใบอนุญาต ไกด์ไทยโดนด้วยเหตุยินยอมให้ไกด์จีนทำหน้าที่แทน
ตามที่ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เร่งรัดตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวระดมกวาดล้างอาชญากรรมใน 10 กลุ่มต้องห้าม ช่วงไฮซีซั่นก่อนวันคริสมาสต์ และวันสิ้นปี ระหว่างวันที่ 16-22 ธันวาคม 2567 ให้เป็นไปด้วยความเข้มงวดกวดขัน ผลงานเป็นที่ประจักษ์
กองกำกับการสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว โดย พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.สืบสวน บช.ทท. มอบหมายให้ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ รักษา รอง ผกก.สืบสวน บช.ทท.และชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ตรวจสอบตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพัทยา เช่น ชายหาดพัทยา ถนนคนเดินพัทยา วัดพระใหญ่ และปราสาทสัจธรรม เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวชมจำนวนมาก เพื่อสืบสวนและจับกุมการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงความผิดอื่นๆ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา
จากการลงพื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 พบชายชาวจีนลักลอบทำงานเป็นมัคคุเทศก์ 1 ราย และชายชาวไทย ซึ่งเป็นมัคคุเทศก์ยินยอมให้ชาวจีนทำหน้าที่แทนตนเอง จึงจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งสอง โดยแจ้งข้อหาไกด์ชาวจีน ฐานความผิด “ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ โดยไม่รับใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์จากนายทะเบียนฯ ตามมาตรา 49 ประกอบ มาตรา 86 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธุรกิจ นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559” และ “คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราว ประกอบอาชีพหรือรับจ้างทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง 2522
ส่วนชายที่เป็นไกด์ชาวไทย แจ้งข้อหา “เป็นมัคคุเทศก์ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำหน้าที่แทนตน” ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 2551 ควบคุมตัวผู้กระทำความผิดทั้งสอง ส่งสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป