นายก ส.ผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา หวังนายกคนใหม่ฟื้นฟูให้เศรษฐกิจดียิ่งขึ้น ส่วนคนทำงานกลางคืนเริ่มไม่คาดหวังเงินดิจิทัล ขั้นตอนเยอะ ยุ่งยาก

จากที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียง ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง โดยนายเศรษฐา ต้องลงจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ในทันที และคณะรัฐมนตรีต้องพ้นสภาพทั้งชุด พร้อมต้องเลือกนายกฯ คนใหม่ และ ครม. ชุดใหม่ ยกชุด พร้อมกับนโยบายที่ได้วางแผนไว้ต้องหยุดชะงักลง แม้สภามีการโหวตเลือกได้นายกฯ คนใหม่คือ นส.แพทองธาร ชินวัตร แล้วก็ตาม แต่ประชาชนที่ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล วอลเล็ต (DW) ผ่านแอพพลิเคชั่นทางรัฐ ยังเกิดความกังวลใจ และตั้งคำถามกันมากมายว่ารัฐบาลใหม่ จะได้จริงหรือไม่ และได้เมื่อไหร่

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสุ่มสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ประกอบการบาร์เบียร์ชายหาดพัทยา คนทำงานกลางคืนถึงประเด็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต อาทิ นางคณิศร อายุ 52 ปี สาวบาร์เบียร์พัทยา ระบุว่า หลังจากที่ทราบข่าวนายเศรษฐา ทวีสิน ถูกสอยลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก ซึ่งขั้นตอนการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล วอลเล็ต ยังคาอยู่ในลำดับที่ 3 ปล่อยเคว้งคว้างรู้สึกเหมือนโดนหลอก แตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้ามีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้มาก แต่ตนยังคงตั้งความหวังกับเงินดิจิทัลฯ เพื่อที่จะเอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้อยู่รอดท่ามกลางเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง

เช่นเดียวกับ ป้ามะลิ อายุ 47 ปี อาชีพเร่ขายลอตเตอรี่ หนึ่งในผู้ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลฯ บอกว่า รับรู้ข่าวสารแล้ว โดยรู้สึกกังวลใน 2 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ตนลงทะเบียนก่อนหน้านี้ อีกหนึ่งสิ่งที่กังวลก็เป็นในเรื่องของการได้รับผลกระทบในด้านเศรษฐกิจของเมืองพัทยา ที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าขาย ขณะที่ในส่วนของผู้นำคนใหม่ในดวงใจ ไม่ขอออกความคิดเห็น แต่อันดับแรกที่ควรทำคือเร่งฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจทั่วประเทศให้กลับมาคึกคักเหมือนเมื่อก่อน

ส่วนนางสายฝน อายุ 55 ปี เจ้าของธุรกิจบาร์เบียร์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา เผยว่า ตนและพนักงานทุกคนในร้าน ไม่เคยหวังกับโครงการเงินดิจิทัลเลย เพราะเนื่องจากกฎระเบียบข้อบังคับมากมาย อยู่รอดด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองทั้งนั้น ยอมรับว่ารัฐบาลยุคนี้ไม่ดีเท่าที่ควร จากเดิมที่ขายของได้วันละหลักหมื่นบาท ทุกวันนี้ขายได้หลักพันยังลำบาก และตอนนี้รู้สึกดีใจที่เปลี่ยนคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาบริหาร พร้อมฝากคณะบริหารชุดใหม่เร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง และกระตุ้นการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเรื่องต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย การใช้ความรุนแรง เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี

ด้าน นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ตอนทราบข่าวรู้สึกตกใจที่มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ในฐานะของผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน คิดว่าในช่วงวาระของนายกฯ คนที่ผ่านมา ที่มีการเปลี่ยนแปลง กระทบไปถึงภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่เมืองพัทยาเพราะว่าในปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนที่น้อยลงอย่างชัดเจน ส่วนการตั้งนายกฯ คนใหม่ คงอาจจะมีนโยบายใหม่ๆ ที่ต่างไปจากคนเดิมและคาดว่าอาจจะทำให้เศรษฐกิจในเมืองพัทยาดีขึ้น

นางลิซ่า ยังกล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทด้วยว่า ในฐานะคนประกอบธุรกิจกลางคืนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากเท่าไรนักเพราะส่วนใหญ่ คนที่มาอาศัย ประกอบกิจการ อยู่ในเมืองพัทยาเป็นคนต่างจังหวัด โดยมองว่าถ้ามีเงื่อนไขในการใช้เงินดิจิทัลที่ต้องกลับไปใช้ในเขตบ้านเกิดก็แทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าไหร่อยากฝากความหวังถึงนายกฯ คนใหม่ ให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาให้ดีกว่าเดิม.