เมืองพัทยายอมถอย สั่งแก้แบบทางกลับรถถนนเทพประสิทธิ์ เพิ่มจุดและขนาดให้เหมาะสม หลังเจอชาวชุมชนคัดค้านหนัก

จากกรณีที่สังคมส่วนใหญ่ในพื้นที่เมืองพัทยาวิพากษ์วิจารณ์ ร้องเรียนออกตามสื่อต่างๆ รวมทั้งมีการรวมตัวคัดรายชื่อเสนอต่อเมืองพัทยาเพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างเกาะกลางถนนเทพประสิทธิ์ เนื่องจากเล็ง เห็นว่ากรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อวิถีการดำรงชีวิตของประชาชน แต่หากจะก่อสร้างจริง ควรมีการสอบถามความคิดเห็นหรือพิจารณาเพิ่มจุดกลับรถให้มากขึ้นและเหมาะสม เนื่องจากในบางช่วงถนนถือว่ามีชุมชนขนาดใหญ่ที่พักอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น แต่กลับไม่มีการเปิดให้ทางเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ชุมชน หรือมีช่องทางกลับรถที่พอเพียงและมีขนาดที่แคบเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุและการจราจรที่ติดขัดได้

ทั้งนี้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เปิดเผยภายหลังนำคณะ ที่มีรองนายกเมืองพัทยาคือ นายมาโนช หนองใหญ่ นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ และสมาชิกสภาเมืองพัทยา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปที่ถนนเทพประสิทธิ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างระบบวางท่อระบายน้ำ และการปรับปรุงผิวจราจร รวมไปถึงเกาะกลางถนนตลอดแนวถนนเทพประสิทธิ์ ที่มีการคัดค้านว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลายภาคส่วนเกี่ยวกับประเด็นการก่อสร้างถนนสายเทพประสิทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างทำโครงการวางท่อระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง รวมทั้งการปรับปรุงผิวจราจรและการตั้งฝาท่อระบายน้ำที่มีระยะสูงกว่าแนวถนนถึง 7 ซม. ล่าสุดเมืองพัทยาได้เร่งรัดงานผู้รับจ้างให้ดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญาจนมาถึงขั้นการเทแอสฟัลท์ติกและการก่อสร้างเกาะกลางถนน ที่จะมีจุดกลับรถจำนวน 3 จุด ซึ่งเป็นไปตามการออกแบบของหลักวิศวกรรมการจราจร แต่เป็นการกลับรถฝั่งเดียว ขณะที่บนถนนเส้นนี้ที่มีความยาวตลอดแนวกว่า 3 กิโลเมตร จึงทำให้ชุมชนออกมาคัดค้านและเรียกร้องให้เมืองพัทยาแก้ไข

จากการเจรจากับผู้นำชุมชนและสมาชิกสภาเมืองพัทยาในพื้นที่พบว่า จำเป็นต้องมีการเพิ่มจุดกลับอีก 4 จุด รวมทั้งสิ้น 7 จุด รวมทั้งติดตั้งสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกซอยกอไผ่ โดยจะมีการทำเป็นแยกกลับรถขนาดใหญ่ที่สามารถกลับรถได้ทั้ง 2 ฝั่งที่มีขนาดความกว้าง 25 เมตร จำนวน 2 แยก และการเปิดจุดเลี้ยวหรือกลับรถขนาดเล็กเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 แยก ที่จะขยายความกว้างจาก 7 เป็น 10 เมตร ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยและไม่สร้างปัญหาให้กับชุมชนในพื้นที่แต่อย่างใด

นายปรเมศวร์ กล่าวอีกว่าการดำเนินการบนถนนเส้นนี้มีการปูแอสฟัท์ติกไปแล้วกว่า 70 % ยังเหลือระยะทางอีกประมาณ 800 เมตรก็จะเสร็จ รวมไปถึงฟุตปาธทางเท้า และเกาะกลางถนนที่จะมาพร้อมกับการติดตั้งเสาไฟฟ้าส่องสว่าง จำนวน 85 ต้น ซึ่งติดตั้งฐานไปแล้วจำนวน 47 ฐาน เพื่อรอแผนโครงการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่เมืองพัทยาจะพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดงานและตรวจสอบความเรียบร้อยในทุกระบบ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ ลดผลกระทบกับประชาชนและใช้งบประมาณอย่างมีคุณค่า เชื่อมั่นว่าทั้งโครงการนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2566 นี้แน่นอน.