สถานการณ์โควิด-19 ชลบุรี 20 พ.ค 2565 ติดเชื้อรวมATK กว่า 1.7พันคน พบมากสุดที่เมืองชล-ศรีราชา สูงวัยตายเพิ่ม 2 ศพ
สสจ.ชลบุรีรายงานว่าวันนี้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ RT-PCR จำนวน 120 ราย ผู้เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ATK 1,509 ราย
ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 1,022,005 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 1,865 คน (อัตราป่วย 182.48 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 2 ราย (0.20 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 2 ราย (0.20 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 8 ราย (0.78 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,958,936 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 1,395 คน (อัตราป่วย 71.21 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 18 ราย (0.92 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 7 ราย (0.36 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 14 ราย (0.71 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 120,072 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 250,065 คน รวม 370,137 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 1,018 คน (อัตราป่วย 275.03 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 23 ราย (6.21 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 6 ราย (1.62 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 20 ราย (5.40 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อหายใจรายใหม่ 1 ราย(มีประวัติการรับวัคซีนสามเข็มเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2565)
ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 4 ราย (รายที่หนึ่งมีประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564,
รายที่สองมีประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2564,รายที่สามมีประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2564,
รายที่สี่ไม่พบประวัติการรับวัคซีน)
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 84 ปี, รายที่สองอายุ 82 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือเป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ (รายที่หนึ่งมีประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2564,
รายที่สองมีประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565)
ดังนั้นการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยเฉพาะเข็มที่สาม ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้นที่ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรียังไม่ได้รับการฉีดจำนวนมาก การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ยังมีอัตราอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากมาโดยตลอด ขอความร่วมมือให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นครบตามเกณฑ์
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี
ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ชิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ้นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน แยกกักโควิด เข้าสู่โรคประจำถิ่น
1. วัคซีนเป็นหลัก วัคซีนมีความสำคัญมากในการเข้าสู่ภาวะการดำเนินชีวิตที่อยู่ร่วมกับโควิด-19 วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
2. รู้จักป้องกัน ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ universal prevention ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป
3. แยกกักโควิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรกักตัว ไม่อยู่ในที่ชุมชน
4. เข้าสู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด คัดกรอง ATK เฉพาะผู้ที่มีอาการ หรือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง หรือเป็นบุคลากรที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน
#วัคซีนเป็นหลัก รู้จักป้องกัน แยกกักโควิด เข้าสู่โรคประจำถิ่น