ตายเพิ่มอีก1 เหยื่อไฟไหม้ “เมาท์เทนบี” สัตหีบ เป็น 15 ศพ ผู้การฯ ชลบุรี สั่ง”เด้ง 5 เสือสภ.พลูตาหลวง ตั้งคกก.สอบข้อเท็จจริง

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ “เมาท์เทนบี” ริมถนนสายสุขุมวิท ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเวลาประมาณ 01.00 ของวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะที่มีนักท่องราตรีกำลังใช้บริการ 100 กว่าชีวิต โดยต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วบริเวณ เนื่องจากหลังคามีการฉีดพ่นโฟม สำหรับซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายอากาศและทางออกด้านหน้าเปิดอยู่เพียงประตูเดียว ด้วยมีการคัดกรองนักเที่ยวตามมาตรการโควิด-19 ส่งผลให้นักเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ทัน

อีกทั้งยังมีกลุ่มควันไฟอย่างหนาทึบ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มอีก 2 ราย รวมเสียชีวิต 15 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีรายงานว่าอาการอยู่ในขั้นสาหัส ร่วม 20 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้เซ็นคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ 313/2565 เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งตำรวจภูธร จังหวัดชลบุรี ที่ 312 /2565 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 00.45 นาฬิกา เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านเมาท์เท่น บี หมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีหลังเพลิงไหม้สงบ จากการเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 13 ราย เป็นชาย 9 ราย หญิง 4 ราย และมีผู้บาดเจ็บส่วนหนึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาล

เพื่อให้การปฏิบัติราชการของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจ ไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ 6 (2) และข้อ 8 (3) จึงให้ข้าราชการตำรวจ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ ตามที่เวรนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี มอบหมาย ดังรายชื่อต่อไปนี้
1 พันตำรวจเอก วุฒิพงษ์ สมใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง
2 พันตำรววจโท สมศักดิ์ รู้ยิ่ง รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง
3 พันตำรววจโท ต่อวงศ์ ศักดิ์กุลวงศ์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง
4 พันตำรวจตรี สมญา ชูสุขพลเยี่ยม สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง
5 พันตำรววจตรี ยุทธนา สงกระสันต์ สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวง

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงสั่ง ณ วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2565

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการสั่งย้าย เนื่องจากสถานบันเทิง ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ ประกอบกับปล่อยให้เยาวชนเข้าไปในสถานบันเทิง และเปิดเกินเวลา โดยไม่กวดขันจับกุม จนทำให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นดังกล่าว ซึ่งการสั่งย้ายไปในครั้งนี้ จะทำให้คณะกรรมการที่แต่งตั้ง ขึ้นมาได้สืบสวนหาความจริง ได้ทำงานสะดวก เพื่อได้รายงานให้กับทาง ผบ.ตร. รับทราบต่อไป

นอกจากนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีเหตุเพลิงไหม้ร้านเมาท์เทน บี จังหวัดชลบุรี ความว่า

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 เวลา 01.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ร้านเมาท์เทน บี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนน สุขุมวิท หมู่ที่ 7 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยว ที่ใช้บริการจำนวนมากเสียชีวิต จำนวน 13 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ถูกนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียง

หลังเกิดเหตุ พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พลตำรวจตรี อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พลตำรวจตรี ทนงค์ ทองประดับเพชร ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ได้เดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเก็บข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐานในทางคดีให้ครบถ้วน พร้อมทั้งสอบสวนพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ในเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุ ได้เกิดเปลวไฟบริเวณฝ้าเพดานภายในร้านเมาท์เทน บี หลังจากนั้นเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ลูกค้าและพนักงานที่อยู่ในร้านต่างพยายามวิ่งหนีออกทางประตู แต่บางรายถูกเพลิงไหม้จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

พันตำรวจเอก เอกภพ อินทวิวัฒน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี / โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ชี้แจงว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญ พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้สั่งการให้ พลตำรวจตรี อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กำชับควบคุมพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีนี้ รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบ ให้ความเป็นธรรมกับผู้บาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิต และให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดหรือผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ถึงที่สุด และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้.